พี่จั๊ก สมสมาน รุ่น 16 พิมพ์
คนครุศิลป์ (Profile & Quote)
วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2008 เวลา 00:00 น.
พี่จั๊ก สมสมาน รุ่น 16
the Monk Studio
www.themonkstudio.com
0 2717 2075


พอจะจบเทอมสุดท้าย ปี 2 (The School of visual arts , New York) ก็ต้องทำ thesis เราต้องคิดโปรเจ็คตั้งแต่ต้นปี แล้วเราต้องทำให้เสร็จ เพื่อที่จะขอจบ ตอนนั้นงาน visual effect ยังไม่เกิด ยังไม่มีนิยามคำว่า visual effect  คำว่า animation ก็ยังแทบจะไม่มี เป็นพวก 2D งานคอมพิวเตอร์ที่ใช้ได้อย่างเดียวตอนนั้นคือ ที่เขาเรียกว่า Flying Logo

ฟลายอิ้งโลโก้ ที่เป็น โลโก้บริษัท โลโก้เปิดทีวี นั่นแหละ เป็นงานอย่างเดียวที่จ้างคนที่ทำงานทางด้านนี้
ยังไม่มีบริษัททำหนังอนิเมชั่น เพราะฉะนั้นยังไงก็ต้องหางานให้ได้ เราก็จะพยายามทำ portfolio ที่เป็น Flying Logo

อาจารย์ที่ปรึกษาเดินมาเห็น ก็ถามว่า เฮ้ยทำอะไร? (ภาษาอังกฤษ)
: บอกว่าทำ ฟลายอิ้งโลโก้
ชอบเหรอ?
: ก็ตอบอาจาร์ยว่า ไม่ชอบ
แล้วทำ ทำไม?
: ก็หางาน

อาจารย์ก็สอนว่า ถ้าทำโดยไม่ชอบ (ก็เหมือนกับแช่ง) เอ็งก็จะต้องทำไปตลอดชีวิต ทำแต่สิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ


: เหรอ งั้นก็ไม่ทำแล้ว โยนทิ้ง
หลังจากนั้นก็ไปทำ thesis อนิเมชั่นหนังสั้น 

อาจารย์คนนั้นเขามีสตูดิโอเป็นของตัวเอง ตอนนั้นสมัยนั้นชื่อ the Studio ต่อมาก็กลายเป็น Blue Sky
แล้วอาจารย์คนนี้ก็กลายเป็นผู้กำกับ ice age กับเรื่อง Robot (animation) ฯลฯ
แล้วเขาก็เคยได้รางวัลออสการ์ เค้าชื่อ Chris Wedge

อันนั้นก็เป็นจุดหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิต ทัศนคติ
ช่างมัน ไม่เป็นไร ทำสิ่งที่ชอบดีกว่า

เราชอบทำหนัง ชอบที่จะสร้างผลงานออกมา ชอบอิมเมจ สร้างรูป เป็นนิสัยส่วนตัว
อาจจะเริ่มจากมีรูปถ่าย เมื่อก่อนชอบถ่ายรูป เคยไปหัดเรียนกับพี่นก แดนสรวง ก่อนไปเมืองนอก
อนิเมชั่น-ตอนนั้นเรียก คอมพิวเตอร์กราฟฟิค มันยังไม่ใช่อนิเมชั่น
มัน จะเป็นศาสตร์ผสมระหว่าง ภาพนิ่งกับภาพเคลื่อนไหวเข้าด้วยกัน อันนี้มันเป็นของใหม่ น่าเล่นดี พอได้ทำหนังสั้น ก็เริ่มเขียน script เอง ทำ concept เอง เขียน storyboard วางโครงเรื่องเอง ทำอะไรต่อมิอะไร ทำให้เราทุ่มเทไปตรงนี้ ในสูตรใหม่ที่เราไม่เคยทำ อย่างว่าแหละ เรายังใหม่อยู่ ทุกอย่างมันสด ไอเดียมันสด พอวางลงไป โยนลงไป บางคนเห็นเขาก็ชื่นชม อาจารย์เห็น ร้องไห้เลย (ฮา)

พอทำหนังสั้น เสร็จ ตอนนั้นยังไม่จบ ยังไม่ได้ขอจบ หนังเสร็จก็ส่งไปตามสตูดิโอต่างๆ เรื่องเดียว 2 นาที (ใช้ Alias มีภาพ เก้าอี้ไฟฟ้า กับนก...)
ส่งไปให้สตูดิโออนิเมชั่นทั้งหลาย แล้วเขาเห็น เขาก็ชอบใจ

(บริษัท Rhythm and Hues) เขาเห็นทีแรกเขาคิดว่า จะจ้างมันดีไหม? มันไม่เห็นส่งงานชิ้นอื่นมาโชว์เลย มันมีชิ้นนี้ชิ้นเดียว
คนอื่นเขาจะมีนู่นมีนี่มาโชว์ ไอ้นี่มันมาไม้ไหนวะ

ตอนหลังไปถามเขา เขาบอกว่า สองจิตสองใจ ไอ้นี่มันไม่บ้า มันก็เก่ง
มันไม่มั่นใจมาก มันก็โง่ฉิบหาย

มันไม่ได้โชว์ความสามารถอย่างอื่น อย่างคนอื่นไง
คนอื่นเขาจะทำนู่นทำนี่ เพื่อบอกว่าฉันทำได้หลายแนวนะ แต่นี่เราเจาะไปเลย เขาก็บอก ก็ลองดู ก็เข้าไปทำ
...

 

แก้ไขล่าสุด ใน วันพฤหัสบดีที่ 02 กรกฏาคม 2009 เวลา 14:13 น.